ปีนี้ข้าพเจ้าอ้วนมาก
และอ้วนที่สุดเท่าที่เคยเกิดมาเปนแมว เวลานั่งทำงานคอมรู้สึกอึดอัดมากรู้สึกได้ถึงพุงที่ย้วยทับลงไปเปนชั้นไขมัน เวลาที่ใส่เสื้อเข้ารูปทีไรก็มักจะถูกถามว่า "ท้องหรือเปล่า" บางคนก็คอนเฟิมไปเรียบร้อยแล้วแต่ข้าพเจ้าไม่อยากไปเอาความแก่เขาให้เปนการเสียเวลา รังแต่อาจจะทำให้คนอื่นคิดว่าข้าพเจ้าท้องไปแล้วจริง ๆ หรือแม้นไปพบอาภรณ์ใดงามเกินห้ามใจ แต่ปรากฏว่ามักจะไม่มีขนาดที่พอดีตัว ทั้งเสื้อและกางเกง ส่วนกระโปรงยังไม่เคยลอง ทำให้หมดความมั่นใจในการซื้อเสื้อผ้าและติดตามแฟชั่น ทุกวันนี้หยิบอะไรทีมีอยู่ในตู้ก็ใส่ ๆ ไป แต่งดีขนาดไหนคนก็มองพุงก่อน ระยำแท้
กระนั้นก็จะหาใครมาเปนโทษก็ไม่ได้นอกจากตัวเอง ย้อนกลับไปสมัยวัยรุ่น ช่วงมอปลายและมหาลัยข้าพเจ้าผอมมาก ผอมขนาดกลับไปเชียงใหม่ แม่แอบเลียบ ๆ เคียง ๆ มาถามคนรู้จักว่าข้าพเจ้าติดยาหรือเปล่า จะว่าไปก็ไม่ได้ติด ติดแต่เบียร์ แน่นอนว่าช่วงมหาลัยเปนช่วงชีวิตที่หนุกหนาน กิน เที่ยว เฮฮากะเพื่อน ได้อย่างอิสระเสรี และก็ไม่ต้องดูแลตัวเอง ข้าพเจ้าไปกินเหล้าและกินเหล้าบ่อยครั้ง มีงานปาร์ตี้ที่ไหน ไม่ต้องเรียกหา ฉันก็เดินทางทันใด หลัง ๆ เวลาไปกินแล้วก็ขี้เกียจผสม เคยลองกินเพียวแล้วก็เมาเร็ว เบียร์คือทางออกที่ดีที่สุด ไม่ต้องผสม รื่นคอ ดื่มง่าย ลีโอ นี่หนึ่งในใจวัยนักศึกษาอย่างเรา แล้วนิสัยของข้าพเจ้าคือกินแบบไม่รีบร้อนไม่ผลีผลาม ไม่มา"โชนนน ชนนน ๆ ๆ ๆ หมดแก้ว ๆ ๆ ๆ" และจะรำคาญพวกนี้มากไอ้หมดแก้ว ๆ เนี่ย รู้ไหมว่ามันเมาเร็วและมันเปลือง ข้าพเจ้าชอบนั่งเรื่อย ๆ มาเรียง ๆมากกว่า แต่แบบนี้รู้ตัวอีกทีก็หมดไปเปนลังเหมือนกัน (กินหลายคนนะ) ช่วงที่กินเยอะ ๆ ก็ช่วงปีท้าย ๆ ของมหาลัยเห็นจะได้ มีคนทัดทานว่ากินเบียร์แคลลอรี่เยอะนะพี่ เท่ากะข้าวสี่จานเลยนะ แต่ข้าพเจ้าหาได้สนใจและประมาทคิดว่าตนเองห่างไกลจากความอ้วนเต็มที
แต่หารู้ไม่ "ความประมาทเปนหนทางสู่ความอ้วน" ช่วงปลายมหาลัยและช่วงทำงานใหม่ ๆ อายุเราก็ประมาณซัก…20-22 ได้ช่วงนั้นร่างกายลดการเผาผลาญพลังงานลงให่้คงที่ มันไม่ได้เอาไปเจริญเติบโตใด ๆ แล้วตามที่เรียนสุขศึกษามา กล้ามเนื้อก็แข็งแรงแล้ว เสียงก็แตกแล้ว มีหนวดขึิ้นและขนขึ้นตามร่างกาย อวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีอารมณ์ทางเพศ ทุกอย่างที่เรียนมาตอนมอสองเกิดขึ้นครบถ้วน ร่างกายก็เอาพลังงานไปทำอย่างอื่นสิ แต่ข้าพเจ้ายังคงบริโภคเหมือนเด็กกำลังโตตลอดเวลา (แต่เปนเด็กกำลังโตทีแดกเบียร์) ร่างกายก็มีพลังงานเหลือเฟือที่ไม่ได้เอาไปใช้ มันจึงแปลงสภาพเปนไขมันพอกพูนตามร่างกายอย่างช้าๆ เงียบเชียบ และมั่นคง ดังมัจจุราชร้ายที่ค่อย ๆ สังหารทรวดทรงอันงดงามเย้ายวนอารมณ์ทางเพศต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน ไปทีละน้อย
หลายปีผ่านไป…
ข้าพเจ้าอ้วนที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยเกิดเปนแมวมา ข้าพเจ้ารู้สึกอึดอัดและลำบาก เข้าผับเต้นแป๊บเดียวก็หน่อย สอนวงน้องสิงห์ออกสเต็ป แป๊บเดียวก็หอบ เดินขึ้นบันไดหลายชั้นหน่อยก็ไม่ไหว แถมอยู่เฉย ๆ มือกับเท้าก็ชอบออกเหงื่อ ผุ้สันทัดกรณีให้ความเห็นว่า มีโอกาสเปนโรคหัวใจ….กรี๊ดดดดดด……ไม่เอา ข้าพเจ้าไม่อยากเปนโรคหัวใจ… ข้าพเจ้าไม่อยากหัวใจวายเฉียบพลันขณะอยู่คนเดียวลำพังในคอนโดหรูแล้วมีคนพังประตูเข้ามาหลังจากที่หายไปหลายวันและมีกลิ่นเหม็นโชยออกไปรบกวนเพื่อนบ้าน ข้าพเจ้าไม่อยากให้ใครมาพบสภาพนอนเปลือยขึ้นอืดร่างขยายใหญ่กว่าเดิม 5 เท่าแล้วนักข่าวก็ถ่ายรูปไปขึ้นหน้าหนึ่งของทุกนสพ ฮือ ๆ ๆไม่เอา ๆ ๆ ดังนั้นปีนี้ข้าพเจ้าจะลดความอ้วน…จะลดจริง ๆ นะมึงชวนพี่วัวลดแต่ชีก็ไม่เอาด้วย ไม่เปนไรข้าพเจ้าจะลดคนเดียว ลำพังอย่างทรนง เพื่อให้ได้มาซึ่งหุ่นล่ำอวบ น่าแดก ไม่ต้องผอมมาก แต่ขอแค่ล่ำอวบ แบบหนังโป๊เกย์ญี่ปุ่นรุ่นหมี ก็พอแล้ว โปรดติดตามชมอย่างระทึกใจ
ยังมีสิ่งที่จะทำในปี 2009 นอกเหนือจากการลดหุ่นอ้วน
1. สร้างหนังเรื่อง 14 อันเปนภาคต่อของ 13 เกมสยอง อันนี้ทุกคนรู้กัน ว่ายังไงก็ต้องทำอยู่แล้วและป่าวประกาศไปตั้งกะปีมะโว้ฉะนั้นไม่พูดถึงมาก เอาเปนว่าเขียนบทอยู่ น่าจะเปิดกล้องกลางปี ส่วนจะได้ดูปลายปีหรือต้นปี 2010 อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะเวลากะอะไรไว้มันมักจะเลื่อนเสมอ ๆ
2. ทำคอนเสิร์ตใหญ่วงออกัส เล่นวันที่ 7 มีนาคม ณ JJ Hall ศูนย์การค้า JJ Hall เวลาเย็น อันนี้คอนเฟิมแล้ว บัตรราคาเท่าไหร่ขอประชุมกันอีกที ตอนนี้กำลังสรุปเรื่องโชว์และจะดำเนินการผลิตงานต่อไป งานนี้กะจำนวนคนไว้ประมาณ 2500 – 3000 คน ทีมสร้างแอบลุ้นระทึกว่าจะขายหมดหรือเปล่าหนอ งานนี้จะเปิดตัวนักดนตรีกลุ่มใหม่ที่จะเข้ามาเสริมทัพของวงที่ใหญ่อยู่แล้วให้ใหญ่เข้าไปอีกด้วย จะเปนอะไรก็ช่วยกันลุ้นละกัน อิอิ
3. ปั้นโปรเจคให้คนอื่นเขา
3.1ตอนนี้นำทีมเขียนบทหนังให้พี่ปรัชญา เรื่องนึงเอากลุ่มน้อง ๆ ที่รู้จักกันมาช่วยเขียน เปนหนังสนุก ๆ เบาสมอง จะเกี่ยวกับอะไรให้ ผกก เขาพูดเองดีกว่า
3.2 ปั้นโปรเจคให้รุ่นพี่คนหนึ่ง ฝีมือดีร่วมงานกันมานานแล้ว พี่เขากำกับเอ็มวีมามากมาย มีวิสัยทัศน์และไอเดียที่น่าสนใจ ก็เลยจะช่วยแกปั้นโปรเจคหนังรักสักเรื่อง ตอนนี้กะลังคุยกันเรื่องพลอตที่ถูกใจพี่แกอยู่ ก่อนหน้านี้นำเสนอพลอตของเราไปแต่พี่เขาบอกว่ามันจริงไป ก็ไม่เปนไร ปั้นกันใหม่ได้ ที่เค้าไม่เอาเด๋วอาจจะเอามาทำเอง อิอิ
3.3 ปั้นโปรเจคให้รุ่นน้องคนหนึ่ง รู้จักกันมานานตั้งแต่น้องเขาใส่ขาสั้น เรียนอยุ่ สก จนมาเรียนนิเทศจุฬา ฝีมือดี ควรจะไว้ใจได้ ตอนนี้เขากำลังเขียนบทอยู่น่าจะได้คุยกันเร็ว ๆ นี้ (ถ้ามึงอ่านอยู่ก็รีบ ๆ เขียนแล้วเอามาคุยด้วย) แฟน ๆ ออกัส อาจจะได้เฮเพราะนี่อาจจะเปนโปรเจคใหม่ของวงออกัส
3.4 ปั้นโปรเจคอื่น ๆ ที่เข้ามาแต่ยังไม่ชัดเจน
ทำไมถึงมาปั้นโปรเจคคนอื่นเขา เพราะคิดว่านี่เปนสิ่งที่ควรทำข้าพเจ้าเคยได้โอกาสจากผู้ใหญ่ใจดี หลาย ๆ คนที่ช่วยอุ้มชูให้ข้าพเจ้ามีวันนี้ได้ และเมื่อถึงวันที่ผู้ใหญ่ใจดี ต้องการเห็นคนใหม่ ๆ งานใหม่ๆ ไอเดียใหม่ ๆ เกิดขึ้นในวงการ ข้าพเจ้าก็เห็นดีและควรจะกระทำอย่างไม่รั้งรอ
4. อ่านหนังสือให้เยอะขึ้น ดูหนังให้เยอะขึ้น ปีที่แล้วดูหนังน้อยมากให้ตายสิ ปีนี้คงต้องเสพงานมากขึ้นแล้วก็หาความรู้ใหม่ ๆ ใส่หัวให้เยอะขึ้นเพื่อไอเดียใหม่ ๆ
5. ร้องเพลงบ้าง ไม่ได้เขียนเพลงและร้องเพลงอัดมานานแล้ว อยากเขียนเพลงใหม่ ๆ และร้องเพลงใหม่ ๆ วูบนึงเคยลามปามถึงขั้นคิดจะออกอัลบั้มเดี่ยว แต่ยั้งใจไว้ทันกลัวดัง ก็เลยคิดว่าอาศัยเกาะชายผ้าเหลืองชาวบ้าน ร้องแจม ๆ แซม ๆ กับเค้าไปก่อน ล่าสุด สแตมป์กำลังจะเปนเหยื่อรายแรก หุหุ
6. เปนคนที่ดีต่อคนที่เรารักและรักเรา ที่ผ่านมาอาจจะเคยทำอะไรเอาแต่ใจ เอาตัวเองเปนศูนย์กลางตลอดเวลา ก็ต้องปรับต้องเปลี่ยน แม้ว่าประวัติศิลปินดัง ๆ มักจะเอาแต่ใจ ติ๊สแตกไม่มีใครเอา แต่ในท้ายที่สุดก็ยังมีคนรักอยุ่เคียงกายในวันสุดท้ายของชีวิต แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่ใช่ศิลปินดัง และกระนั้นไม่พอ เกิดไม่มีใครจะเอาเราแล้วล่ะ สุดท้ายเราจะเอาแต่ใจกับใครก็ไม่มี มันน่าเศร้ากว่าเสียจริง ปีนี้จะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น นะจ๊ะ
7. หาแมวตัวใหม่มาเลี้ยงเปนเพื่อนน้องทางด่วนที่เชียงใหม่ เพราะสัปดาห์ก่อน แมวนินจาพึ่งเสียไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ครอบครัวของข้าพเจ้าเสียใจมาก ร้องไห้ไปสองคืน เพราะแมวนินจาเปนแมวขี้อ้อน รู้ความ นิสัยดี ไม่เอาแต่ใจเหมือนทางด่วน แต่มาด่วนจากไปก่อนวัยอันควร หาศิริรวมอายุคนก็ประมาณ 17-18 เท่านั้นเอง ความเสียใจของข้าพเจ้ายังไม่เท่าน้องทางด่วนแมวขาว เพราะแม่เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่นินจาจากไป ทางด่วนก็เอาแต่ร้องไห้ การร้องไห้นั้นคือการเข้าไปมุดอยู่กะที่นอนของแม่ และเอาหน้าซุกมือตัวเองทั้งคืน เปนงี้ทุกคืน แล้วก็ไม่ยอมให้แม่ไปไหนเข้ามาคลอเคลียให้อุ้มตลอด มันคงเหงา
ความเปนจริงแล้วนินจามีน้องอีกคนชื่อขมิ้นเปนผู้หญิง แต่ก่อนหน้าที่นินจาจะจากไปไม่กี่วัน ขมิ้นหนีตามผู้ชายไปแล้ว ดังนั้นทางด่วนจึงเปนแมวเดียวดายในบ้าน แม้จะมี แมวชื่อจิงโจ้ อีกตัวก็ตาม แต่ทางด่วนก็ไม่ชอบนิสัยของจิงโจ่้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เคยถามแล้วแมวก็ไม่ตอบ กลับไปเชียงใหม่อาทิตย์หน้าต้องไปเสาะแสวงหาแมวอีกแล้ว ฯลฯ เ
ขียนมาตั้งนานแล้ว สิ่งที่อยากทำก็ยังมีมากมาย กลับไปดูสเปศเก่า ๆ เวลาขึ้นปีใหม่ทีไรก็จะเขียนอะไรแบบนี้ตลอด ซึ่งก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง สาระแก่นสารของมันจริงแล้วไม่ได้อยู่ที่ว่าทำได้หรือไม่ได้มั้ง เพราะเอาเข้าจริง การคิดถึงเรื่องอนาคตและความคาดหวังต่อสิ่งที่เราจะกระทำต่อไป การนึกถึงมันทำให้เรายังรู้ว่าเรายังอยู่วัยหนุ่ม ยังมีเรี่ยวแรงที่จะทำอะไรได้อีกเยอะ น่ากลัวเหมือนกันว่าปีหนึ่งเกิดเราไม่รุ้จะทำอะไรได้ขึ้นมามันจะเปนยังไงหวังไว้ว่ามันคงไม่เกิดขึ้นกัยเราเร็วๆ นี้แน่นอน
ขอให้ทุกคนมีความหวังและความฝันอันบรรเจิดเรืองรอง
แมวโพง ช่างฝัน
ปล. 1 ใครอ่าน "ช่างสำราญ" แล้วคิดว่านวนิยายเรื่องนี้ควรสร้างเปนภาพยนตร์บ้าง
ปล. 2 "รอบบ้านทั้งสี่ทิศ" คือรวมเรื่องสั้นที่ระดับท็อปฟอร์ม ของคุณ กนกพงษ์ สงสมพันธุ์ ก่อนที่แกจะเสียชีวิตเปนหนังสือที่ดีที่สุดที่ได้อ่านในปี 2008 ที่ผ่านมา(ตามรสนิยมของข้าพเจ้า)